วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ทุกสิ่ง ทุกอย่างมีใจเป็นใหญ่ เป็นประธาน มีใจประเสริฐสุด และสำเร็จได้ด้วยใจ

เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้วนะ ที่ผมได้มาอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยบูรพา คงเป็นเวลาที่ถือได้ว่านานมากสำหรับคนอย่างผมที่ไม่เคยอยู่ห่างจากบ้านมากนาน และนับเป็นช่วงชีวิตที่ถือได้ว่า ได้พบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ ได้พบกับสังคมใหม่ๆ เพื่อนๆใหม่ เราต้องทำกิจกรรมไปพร้อมๆ กับการทำงาน ต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่นานพอสมควร หลายครั้งผมต้องพบเจอกับอุปสรรค บางครั้งบางสิ่งทำผมต้องเกิดอารมณ์โมโห และทุกครั้งผมก็ผ่านจากช่วงเวลาร้ายๆนั้นไปได้ เป็นอะไรที่ทำให้ผมได้ค้นพบว่า สิ่งที่เราควรจะควบคุมเป็นอย่างแรกในเวลาที่เรา คิดไม่ออก ทำอะไรไม่ถูก สิ่งนั้นก็คือ “ใจของเราเอง”และในหลายๆครั้งที่ผม ได้แต่ทำตัวเป็นคนซื้อของใช้ หรือเสื้อผ้าแพงๆมาใส่ เพื่อนที่ว่าตนเองจะได้เป็นคนที่ดูแล้วเป็นคนที่เจริญขึ้นบ้างอะไรบ้าง แต่ ณ เวลานี้ผมได้รู้อีกอย่างหนึ่งว่า สิ่งที่ผมควรจะทำให้เจริญไม่ควรที่จะเป็นเสื้อผ้าหรือของใช้ต่างๆ แต่ควรเป็นความเจริญทางด้านจิตใจ ซึ่งผมไม่ต้องซื้อด้วยเงินมากมายเลยด้วยซ้ำ !
ผมว่า.. คุณก็คงจะเคยผ่านช่วงเวลาที่ถือว่ายากที่สุดเวลาหนึ่งที่ถือว่าเราต้องผ่านจุดๆนั้นไปให้ได้ ซึ่งช่วงเวลานั้นช่วงเวลาปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสิ่งใหม่ๆในชีวิตให้ได้ เพื่อนคือสิ่งที่เราต้องใช้ชีวิตด้วยกัน แต่ในการอยู่ร่วมกันทำงานด้วยกันในหมู่คณะใหญ่ มันเป็นเรื่องปกติที่จะมีการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้นหลายครั้งทั้งๆที่มันเป็นเรื่องเล็กๆของการทำงาน หรืออาจเป็นการทะเลาะกันเพื่อให้สิ่งที่เรากำลังสร้างนั้นดีขึ้น แต่มันก็เป็นการที่ทำให้พวกเราทุกคนเกิดอาการโกรธขึ้น งานเราหยุดชะงักได้ หลายเหตุการณ์และอุปสรรคที่เข้ามา สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการทำงานร่วมกับผู้อื่นก็คือ วิธีการที่จะแก้ปัญหาเหล่านั้น วิธีการแก้ ไม่ใช่การมายืนเถียงกันไป เพราะเป็นสิ่งที่จะทำให้เกิดแต่อารมณ์โกรธขึ้น และยังเป็นทางที่จะทำให้เกิดการใช่พลังกายใส่กัน จิตใจของเรานั้นก็มีแต่ความมืดมน แต่วิธีการแก้คือเป็นการที่เรามาสงบอารมณ์ สงบจิตใจ คุยกันด้วยอารมณ์สงบ เผชิญหน้ากับสถานการณ์ ทำให้เราเกิดสติ การแก้ปัญหาต่างๆก็จะเป็นไปอย่างราบรื่น
ในชีวิตวัยรุ่นของผมนั้น คงไม่ได้มีแค่การเรียนและทำงานอย่างเดียวหรอก ในทุกวันหยุดผมก็เป็นคนนึงที่รักสนุกได้เที่ยวกับเพื่อนบ้างอะไรบ้าง ถือว่าเป็นความสุขของผมอย่างหนึ่ง ทุกครั้งที่ผมได้ใช้เวลากับเพื่อนผมก็ใช้เงินหลายๆบาทซื้อเสื้อผ้าโดยสิ้นเปลืองโดยหวังว่าเสื้อผ้าตะทำให้ผมนั้นดูเป็นที่ยอมรับ เท่ และ อินเทรนด์ ! แต่ในเวลานั้นผมไม่ได้คิดเลยว่าการทีผมใช้เงินอย่างสิ้นเปลืองนั้นเป็นการทำให้ตัวเราดูสูงขึ้นแค่ภายนอกอย่างผิดๆ ไม่ได้เป็นการทำให้จิตใจของเราดูเจริญขึ้นมาเลย..

ผมจึงสรุปการใช้ชีวิตของผมได้เลยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาและต่อๆไปในอนาคตนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่การที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่เจริญหูเจริญตา แต่เป็นจิตใจที่เจริญแล้ว การควบคุมจิตใจและพลังใจก้เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการใช้ชิวิตร่วมกับผู้อื่นเพราะทุกสิ่ง ทุกอย่างมีใจเป็นใหญ่ เป็นประธาน มีใจประเสริฐสุด และสำเร็จได้ด้วยใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น