วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2552

พ่อแม่ที่ดีของลูก-ลูกที่ดีของพ่อแม่

พ่อแม่ที่ดีของลูก-ลูกที่ดีของพ่อแม่

นาย ศิธา สุธาวุฒิ
เอกการสอนภาษาอังกฤษ
รหัสนิสิต 52040244

เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนนี้ ในคาบเรียนวิชาทักษะการวิเคราะห์ข้อมูลทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งถือว่าเป็นการเรียนในสัปดาห์ที่ 7 แล้ว ในสัปดาห์นั้นเราเรียนกันในเรื่องของไฟล์เสียงกัน เรียนกันตั้งแต่ wav midi และอีกมากมาย โดยนอกจากอาจารย์จะสอนเกี่ยวกับไฟล์เสียงต่างๆแล้ว อาจารย์ยังสอนให้วิเคราะห์เนื้อหาที่ได้จากการฟังด้วย โดยเรื่องแรกที่อาจารย์ได้เปิดให้พวกเราฟังนั้น เป็นเรื่องหน้าที่ของพ่อแม่ และ ลูกที่ดี ซึ่งเป็นคำเทศนาของท่าน ว.วชิรเมธี ซึ่งแม้ในคาบผมจะหลับ แต่เมื่อผมได้มีโอกาสมาฟังไฟล์ wma ไฟล์นี้ ผมกลับรู้สึกได้ว่า นี่ไม่ใช่คำเทศนาของพระที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก
ทุกคนคงจะเคยได้มีโอกาสฟังคำพระ ทีเกี่ยวกับการเป็นลูกที่ดีมาบ้างแล้วใช่มั้ยล่ะครับ แต่ในบทความนั้นไม่ได้เป็นการสอนให้เราเป็นเพียงแค่ลูกที่ดีเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการสอนหน้าที่พ่อแม่ที่ดีและยังเป็นการสอนให้เราเตรียมตัวที่จะเป็นพ่อแม่ที่ดีในอนาคตด้วย
บทความนั้นเริ่มต้นด้วยการเกริ่นนำว่า ก่อนที่พ่อแม่จะเรียกร้องให้ลูกๆมากตัญญูต่อตัวเองนั้น
พ่อแม่ ต้องดูตัวเองก่อนว่าตัวเองได้ทำหน้าที่ของ พ่อแม่ที่ดีแล้วหรือยัง หน้าที่ของพ่อที่ดีนั้นคือ ต้องห้ามปรามลูกจากความชั่ว ต้องสอนให้ลูกรู้ว่าอะไรนั้นคือความชั่วและบอกให้ลูกนั้นอย่าเข้าไปยุ่งกับความชั่ว และให้ลูกนั้นตั้งตนอยู่แต่ในความดี และสอนให้ลูกๆเป็นคนดีมีคุณธรรม การจะเป็นคนดีได้นั้นจะต้องวัดกันที่การศึกษา พ่อแม่ต้องให้ลูกมีการศึกษาที่ดีเพราะถ้าลูกไม่มีการศึกษาที่ดีพอแล้ว จะถือว่าพ่อแม่ไม่สามารถทำหน้าที่พ่อแม่ที่ดีได้เลย และการศึกษานั้นไม่ได้เริ่มต้นที่โรงเรียนแต่เป็นการเริ่มต้นตั้งแต่การสั่งสอนของพ่อแม่อีกด้วย นอกจากนี้พ่อแม่ยังมีหน้าที่ ที่จะต้องหาคู่ครองที่ดีให้กับลูก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องคลุมถุงชน ต้องให้โอกาสลูกได้เลือกเองบ้างอะไรบ้าง เพียงแต่พ่อแม่จะต้องดูว่าลูกเรานั้นคบอยู่กับคนที่ดีพอกับลูกเราหรือไม่ เพราะว่าถ้าคู่ครองของลูกนั้นไม่ดีพอก็หมายถึงสถาบันครอบครัวของลูกนั้นจะล่มสลายไป และสุดท้าย พ่อแม่นั้นจะต้องมอบมรดกให้กับลูกในเวลาอันควร มรดกนั้นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นเงินทองเสมอไป แต่อาจจะเป็นคุณงามความดี ชื่อเสียง ที่พ่อแม่นั้นได้สั่งสมมา ถ้าพ่อแม่นั้นได้ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีที่สุดแล้ว ก็จะสามารถเรียกร้องให้ลูกๆ มาเป็นลูกที่กตัญญูต่อตัวเองด้วย
ส่วนตัวลูกนั้นเมื่อมีพ่อแม่ที่ประเสริฐขนาดนี้แล้ว ลูกนั้นก็ต้องมีหน้าที่ของตัวเองเช่นกัน หน้าที่ของลูกนั้นคือ ท่านเลี้ยงเรามาแล้วเลี้ยงท่านตอบ ช่วยทำกิจการงานของท่าน ดำรงวงศ์สกุลของพ่อแม่ไว้ ประพฤติตนให้เหมาะสมกับความเป็นทายาท เมื่อท่านล่วงลับไปแล้วทำบุญอุทิศให้ท่าน ถ้าลูกๆนั้นได้ทำตามข้างต้นนี้แล้วก็จะถือว่าเป็นลูกที่ดีได้
ที่สุดแล้วก็จึงสรุปได้ว่าบางครั้งที่ลูกนั้นไม่กตัญญูต่อพ่อแม่นั้น พ่อแม่อาจจะต้องหันหลับมามองตัวเองด้วยว่า ตัวเองนั้นทำหน้าที่พ่อแม่ดีแล้วหรือยัง ส่วนลูกก็ต้องดูตัวเองเหมือนกันว่า ได้ทำหน้าที่ที่เป็นลูกที่ดีพอแล้วหรือยัง นอกจากนี้พระพุทธเจ้าได้ให้หลักธรรมการเป็นพ่อแม่ที่ดีไว้คือ พรหมวิหาร 4
ซึ่งหมายถึง เมตตาลูกในยามปกติ กรุณาลูกในเวลาที่ลูกมีปัญหา มุฑิตาเมื่อลูกนั้นประสบความสำเร็จ และอุเบกขาเมื่อลูกทำผิด ทั้งหมดนี้ต้องตั้งอยู่บนความพอดีไม่มากเกินไป ถ้าพ่อแม่นั้นได้ปฎิบัติตามหลักของพรหมวิหาร 4 แล้ว ก็ถือได้ว่า “พ่อแม่นั้นคือพระพรหมของลูก”


-------------------------------------
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของศึกษารายวิชา ทักษะการวิเคราะห์ข้อมูลทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
เอกสารอ้างอิง
http://www.tamdee.net/dhamma/play.asp?QID=489
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=6c84465d97a294be&pli=1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น